ขอบเขตนโยบาย นโยบายนี้ครอบคลุมถึง
- วิธีที่บริษัทฯ ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
- วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด
.
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
เมื่อท่านอยู่ในและบริเวณโดยรอบของอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ ข้อมูลของท่านจะถูกบันทึกผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของ บริษัทฯ เช่น ระบบกล้องวงจรปิด ในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
.
ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
- ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกไว้
- เสียง
.
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ จะดำเนินการผ่านเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ หรือบุคคลใดๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง หรือที่จะกระทำการ แทนหรือในนามบริษัทฯ ที่จำเป็นในการควบคุมและรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ อาจอาศัย (1) ฐาน ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interest) และ (2) ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation) ดังนี้
- เพื่อควบคุมการเข้าอาคารและสถานที่ ตลอดจนเพื่อสังเกตการณ์ ป้องกัน ขัดขวาง และตรวจสอบการเข้าอาคารและสถานที่โดยมิได้ รับอนุญาต เพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ
- เพื่อควบคุมการเข้าถึงแหล่งเทคโนโลยีสารสนเทศและฐานข้อมูลของบริษัทฯ
- เพื่อจัดเก็บข้อมูลจากระบบกล้องวงจรปิดไว้ในฐานข้อมูลของบริษัทฯ รวมทั้งเพื่อดูแลและตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิดตาม วัตถุประสงค์ข้างต้น
- เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมายใด ๆ รวมถึงการดำเนินการที่จำเป็นในกระบวนการทางกฎหมาย หรือการปฏิบัติ ตามคำสั่งของศาลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
- ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการประมวลผลใดๆ ต่อข้อมูลส่วนตัวของท่านนอกเหนือไป ที่วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไว้ที่เว็บไซต์ www.homeone.co.th หรือแจ้งเป็น ประกาศที่สาขาของบริษัทฯ ให้ท่านทราบ
.
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยนโยบายและแนวปฏิบัติ บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวมผ่านระบบกล้องวงจรปิดดังกล่าวให้แก่ บุคคลภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการดังกล่าว เท่านั้น เช่น ศาล อัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น
.
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
ที่ | สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | รายละเอียด |
1 | สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) | หากท่านได้ให้ความยินยอม บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา |
2 | สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) | ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และ ขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาการได้รับ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ |
3 | สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) | ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคล นั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้ โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้ง :
|
ที่ | สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | รายละเอียด |
1 | สิทธิขอคัดค้าน (right to object) | ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านใน เวลาใดก็ได้ เว้นแต่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น ทำ ขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น และไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่าง สมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ |
2 | สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) | ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็น ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่า บริษัทฯ หมด ความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ |
3 | สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) | ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่าง ตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่านหรือ กรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง |
4 | สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) | ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด |
5 | สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) | ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง |
ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของบริษัทฯ ตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ บริษัทฯ จะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯได้รับคำขอใช้ สิทธิจากท่าน ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอ บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่าน ทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
.
มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภาพถ่ายหรือภาพที่ถูกบันทึกข้างต้นไว้โดยบริษัทฯ สามารถเข้าถึงได้โดยแผนกรักษาความปลอดภัย ฝ่ายบริหารงานทั่วไปของบริษัทฯ และบริษัทคู่สัญญาซึ่งเป็นผู้รับจ้างดำเนินการเกี่ยวกับระบบกล้องวงจรปิด ในการนี้ บริษัทฯ ได้จำกัดการเข้าถึงระบบกล้องวงจร ปิดในระดับสูงซึ่งจะมีการป้องกันโดยการกำหนดรหัสผ่าน (password) และบันทึกการเข้าสู่ระบบและการปฏิบัติการใด ๆ ของผู้เข้าถึง ระบบกล้องวงจรปิด และข้อมูลส่วนบุคคลมิอาจเข้าถึงได้โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้จัดการฝ่ายบริหารงานทั่วไปของบริษัทฯ บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดอย่างปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด หากท่านมี เหตุให้เชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด หรือมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดฉบับนี้ กรุณาติดต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามแนบท้ายนโยบายนี้
.
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด
บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลาตามที่ เห็นสมควร โดยแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงดังกล่าวเอาไว้ใน เว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
.
การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามหลักการการรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือ เปิดเผย นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้าน การบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทาง กายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control) ด้วย
.
การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดขึ้น บริษัทฯ จะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของท่าน บริษัทฯ จะแจ้งการละเมิดให้ท่านทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
.
รายละเอียดการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ โปรดติดต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่
ที่อยู่ : 279/3 ถ.แจ้งสนิท ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี 34000
อีเมล: dpo@shc.co.th โทรศัพท์ 045-281-999 ต่อ 555
.
นโยบายนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2565