๑.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัท ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- ๑.๑ เพื่อวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแลและการตรวจสอบภายในตามมาตรฐานของบริษัทในบริษัท
- ๑.๒ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการนำเสนอสินค้าหรือบริการ สั่งจองสินค้าหรือบริการ และยืนยันคำสั่งซื้อ(ขาย)สินค้าหรือบริการ การรับสินค้า การคืนสินค้า การยกเลิกขายสินค้า การรับของสมนาคุณสินค้าและบริการ เป็นต้น
- ๑.๓ เพื่อบริหารจัดการระบบขนส่ง
- ๑.๔ เพื่อวิเคราะห์วางแผนการขาย นำเสนอขายสินค้าและบริการ
- ๑.๕ เพื่อใช้ออกเอกสารประกอบการซื้อขายและบริการประเมิน ติดตั้ง รับประกัน จัดส่งสินค้า
- ๑.๖ เพื่อเป็นหลักฐานสรุปรายงานตรวจสอบ และการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย
- ๑.๗ เพื่อบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน เช่น การมอบของสมนาคุณ ส่วนลด การเข้าเยี่ยม การบริการ ติดตามการขาย ประเมินความพึงพอใจ ร้องเรียน พัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้น เป็นต้น
- ๑.๘ เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจกรรม โปรโมชั่น สินค้า และบริการ ตลอดจนให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดและตอบสนองความต้องการของท่าน
- ๑.๙ เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายต่างๆ กำหนดไว้
.
๒.ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ ๑. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการต่อไปนี้
- ๒.๑ แหล่งข้อมูลและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม มีดังนี้
แหล่ง/วิธีการเก็บรวบรวม | รายการข้อมูลส่วนบุคคล |
๑. ข้อมูลที่เก็บโดยตรงผ่านการกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ www.homeone.co.th การกรอกใบสมัครสมาชิก | ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ที่ติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์มือถือ ไอดีไลน์ อีเมล เป็นต้น |
๒. ข้อมูลที่เก็บโดยการใช้เทคโนโลยีตรวจจับหรือติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ www.homeone.co.th ของท่าน | เว็บไซต์คุกกี้ ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการใช้ Application, Device ID, Browsing history |
๓. ข้อมูลที่เก็บโดยตรงผ่านการกรอกข้อมูลจากแบบฟอร์มอมสมัครสมาชิกและการอ่านข้อมูลจากบัตรประชาชนจากเครื่องอ่านบัตรประชาชน
| ชื่อ-สกุล ชื่อภาษาอังกฤษ หมายเลขบัตรประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล วันเกิด หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขบัญชีธนาคาร เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา รูปภาพแผนที่แสดงที่ตั้งสถานประกอบการ วงเงินสินเชื่อกับบริษัทการเงินอื่น เลขที่โฉนด (หลักประกัน) ตัวอย่างลายเซ็นสั่งสินค้า-สั่งจ่าย เป็นต้น |
๔. ข้อมูลที่เก็บโดยตรงผ่านการกรอกข้อมูลจากแบบฟอร์มอมการจัดส่ง | แผนที่ ปักหมุด GPS ตำแหน่งที่ต้องการให้จัดส่งสินค้า |
- ๒.๒ จุดประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล
จุดประสงค์ในการใช้ข้อมูล | รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ |
๑.พิจารณาสินเชื่อ | ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขบัญชีธนาคาร วัน เดือน ปีเกิด รูปภาพ แผนที่แสดงที่ตั้งสถานประกอบการ วงเงินสินเชื่อกับบริษัทการเงินอื่น เลขที่โฉนด (หลักประกัน) ตัวอย่างลายเซ็นสั่งสินค้า-สั่งจ่าย เป็นต้น |
๒. จัดทำประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล | ชื่อ-นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น |
๓.จัดทำรายงานจัดกลุ่มลูกค้า | ชื่อ-นามสกุล เป็นต้น |
๔.จัดทำรายงานยอดขายต่างๆ | ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด รูปถ่าย เป็นต้น |
๕. ดำเนินการออกเอกสารต่างๆ ประกอบการซื้อขายและบริการประเมิน ติดตั้ง รับประกัน จัดส่งสินค้า เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบหัก ภาษี ณ ที่จ่าย เอกสารที่เกี่ยวข้องกับหนี้ค้างชำระ เป็นต้น | ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เป็นต้น |
๖. การลงข้อมูลการออกเยี่ยมลูกค้า ส่งสินค้าและการทำคืนสินค้า | ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ แผนที่ ปักหมุด GPS เป็นต้น |
๗. การสะสมและการแลกคะแนนของสมาชิก | ชื่อ-สกุล หมายเลขบัตรประชาชน วันเกิด อาชีพ เป็นต้น |
๘. การจัดงานเลี้ยงลูกค้า /อบรมสัมมนา/ทริปเที่ยว | ชื่อ-สกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล รูปภาพ วีดีโอ เป็นต้น |
๙. การประเมินความพึงพอใจ และร้องเรียน | ชื่อ-สกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น |
๑๐. การจัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์โปรโมชั่น และกิจกรรมต่างๆ | รูปภาพ |
๑๑.การส่งข้อมูลการขายให้คู่สัญญา | ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น |
๑๒.การตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติงานภายในบริษัท | ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ภาพถ่ายบุคคล เป็นต้น |
.
๓.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อประเภทของบุคคลและช่องทางดังต่อไปนี้
- ๓.๑ บริษัทหรือหน่วยงานที่เป็นคู่สัญญา เช่น บจก.เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น บจก.ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ บจก.แอลจีอิเลคทรอนิคส์(ประเทศไทย) บจก.ไฮเออร์ อิเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์(ประเทศไทย) บริษัท จิซทิกซ์(สำนักงานใหญ่) จำกัด เป็นต้น
- ๓.๒ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือบุคคลอื่นเพื่อการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด คำสั่งของผู้มีอำนาจ คำสั่งหรือหมายศาล เป็นต้น
- ๓.๓ ประกาศต่อสาธารณะ ในกรณีเช่น การประกาศรายชื่อผู้โชคดีจากการจัดกิจกรรม สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ซึ่งมีท่านปรากฏเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัท www.homeone.co.th และประกาศผ่านสื่อ Social Media เช่น Facebook Tiktok Youtube Line Official ของบริษัทเป็นต้น
ทั้งนี้ กรณีที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
.
๔.สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ๔.๑ สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลและกรณีที่การขอเข้าถึงและรับสำเนาของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
- ๔.๒ สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- ๔.๓ สิทธิในการขอให้องค์กรระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
- ๔.๓.๑ เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัททำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
- ๔.๓.๒ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
- ๔.๓.๓ เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งแก่ท่านในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
- ๔.๓.๔ เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- ๔.๔ สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของบริษัท)
.
๕.ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาดังต่อไปนี้
- ๕.๑ สำหรับข้อมูลของลูกค้า เก็บรักษาไว้ ๑๐ ปี นับจากวันที่ท่านมีการซื้อสินค้าครั้งสุดท้ายกับทางบริษัท
- ๕.๒ สำหรับข้อมูลผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เก็บรักษาไว้ ๓ ปี นับแต่วันที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคล
- ๕.๔ สำหรับข้อมูลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ เก็บรักษาไว้ ๑๐ ปี นับแต่วันที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทจะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่ท่าน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลบางส่วนเพื่อประโยชน์ของท่าน เช่น ในกรณีที่ท่านได้ใช้สิทธิหรือมีข้อพิพาทหรือคดีความกับทางบริษัท หรือการใช้บริการของท่าน บริษัทขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าภารกิจดังกล่าวจะมีข้อกำหนดให้ยกเลิก หรือข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
.
๖.คุกกี้
บริษัทเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท ได้แก่ www.homeone.co.th หรือบนอุปกรณ์ของท่าน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของบริษัท และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของบริษัท และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน
.
๗.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของบริษัท
นอกจากนี้ สำนักงานได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
.
๘.การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและผู้แทน
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อได้รับคำร้องขอจากท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายของท่าน โดยส่งคำร้องขอผ่าน www.homeone.co.th อีเมล : pdpa@shc.co.th หรือ dpo@shc.co.th
ในกรณีที่ท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
.
๙.การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
ในกรณีที่มีความจำเป็น บริษัทอาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของบริษัท ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่บริษัทมอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของบริษัทเท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ บริษัทจะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างบริษัทกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
.
๑๐.การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากประกาศนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
.
๑๑.การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่และบุคคลเฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่และบุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
.
๑๒.การเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.homeone.co.th โดยมีวันที่ของเวอร์ชั่นล่าสุดกำกับไว้ อย่างไรก็ดี บริษัทขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว ถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
.